วันที่ 19 เม.ย. 68 จากกรณีที่นาย สมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือ พีช อายุ 28 ปี ผู้สมัคร สท.ลำลูกกา ทีมธัญญก้าวหน้า ลูกชายคนสุดท้องของ “นายกเบี้ยว” นาย กฤษฎา หลีนวรัตน์ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี จ.ปทุมธานี และเป็นน้องชายของนาย มนัสนันท์ หลีนวรัตน์ หรือ สส.ฟลุ๊ค สส.ปทุมธานี เขต 5 พรรคเพื่อไทย
ขับรถเก๋งหรู BMW ป้ายแดง ปาดหน้า นายประจักษ์ ดวงใย และนางสมศรี ดวงใย สองสามีภรรยา ลุงกับป้าที่ขับรถกระบะสีดำจนไปชนแบริเออร์ ทำให้ได้รับบาดเจ็บเหตุเกิดที่ถนนกาญจนาภิเษกหมายเลข 9 บางนา-บางปะอิน มุ่งหน้าบางปะอิน กม.22 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
ต่อมา นาย สมิทธิพัฒน์ หรือ พีช ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ลำลูกกา เพื่อรับทราบ 4 ข้อหาเรียบร้อยแล้วเมื่อคืนวันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมา
ล่าสุดเฟซบุ๊กเพจ “กันจอมพลัง ช่วยสู้” โพสต์ข้อความถึงเรื่องดังกล่าวว่า “ลูกนักการเมืองขับรถเบียดตาจนซี่โครงหัก 6 ซีก อาการ 50 50 ย่องไปรับทราบ 4 ข้อหาที่ สภ.ลำลูกกา ตำรวจอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่ต้องวางหลักประกัน ลองเป็นตาสีตาสาจะได้แบบนี้ไหม”
“เป็นคนรวยคนนามสกุลดังนี่มันดีจริงๆ ว้อย ลองเป็นตาสีตาสา โดนแจ้งข้อหา 4 ข้อหานี่ ผมว่ามีโอกาสหาเงินประกันตัวกันวุ่นแล้ว ถ้าเป็นคนจนหาไม่ได้ ก็นอนคุกไปก่อน”

ดราม่าหน้าโรงพัก “กัน จอมพลัง” ฟาดเดือด “พีช สมิทธิพัฒน์-นายกเบี้ยว” ขอโทษล่มกลางวงสื่อ ลั่น นี่มันมัดมือชกเกินไป
เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2568 พีช สมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ ได้เดินทางมาที่ สภ.ลำลูกกา พร้อมนายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือ “นายกเบี้ยว” เพื่อนำพวงมาลัยจำนวน 2 พวง มาแสดงความขอโทษต่อครอบครัวผู้เสียหาย กรณีขับรถยนต์ BMW เฉี่ยวชนรถกระบะของลุงและป้า จนทำให้ฝ่ายชายได้รับบาดเจ็บสาหัส
โดยช่วงเวลา 15.00 น. “กัน จอมพลัง” ได้เดินทางมายังสถานีตำรวจพร้อมลูกสาวของผู้เสียหาย เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี และรอการขอโทษจากนายพีช ตามที่เจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์ไว้
ระหว่างเดินทางขึ้นโรงพัก นายกเบี้ยว ได้แสดงอาการไม่พอใจต่อผู้สื่อข่าว โดยตะคอกให้หลีกทาง เนื่องจากก่อนหน้านี้เกิดเหตุการณ์กล้องของสื่อกระแทกศีรษะนายพีช
ต่อมา นายกฤษฎา และนายพีช ได้เชิญครอบครัวผู้เสียหายเข้าไปพูดคุยภายใน แต่ทางครอบครัวและกัน จอมพลัง ยืนยันให้เจรจาต่อหน้าสื่อ จึงมีการส่งตัวแทนเข้าไปเจรจา 2 ครั้ง ก่อนที่ทั้งหมดจะออกมาพร้อมพวงมาลัย และยกมือไหว้ขอโทษ
กัน จอมพลัง ได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับคำพูดของนายพีชในรายการโทรทัศน์ว่า “หากลุงจอด เรื่องจะไม่เกิดขึ้น” ซึ่งสร้างความไม่พอใจแก่ครอบครัวผู้เสียหาย โดยนายกเบี้ยวตอบว่า “เข้าใจครับ แต่เห็นใจผมบ้าง ผมเหนื่อยแล้ว”
ในช่วงหนึ่ง นายพีชถึงกับคุกเข่าขอโทษลูกสาวของผู้เสียหาย ก่อนที่กัน จอมพลัง จะดึงตัวออกและกล่าวว่า “แบบนี้มัดมือชกเกินไป”
นายพีชเผยทั้งน้ำตาว่า “ผมไม่มีเจตนาจะทำให้ใครเจ็บ ผมรู้สึกผิด และอยากขอโอกาสจากสังคม” พร้อมยืนยันว่าจะรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม เมื่อถูกถามว่าทำไมวันเกิดเหตุไม่เรียกรถพยาบาล นายพีชไม่ได้ตอบ และถูกนายกฤษฎาพาออกจากวงสัมภาษณ์ โดยก่อนขึ้นรถ นายพีชได้กล่าวทั้งน้ำตาว่า
“ผมรู้สึกผิดแล้วก็ขอโทษแล้วนะพี่ ขอโทษอย่างจริงใจ รู้สึกผิด และ ทุกอย่างโจมตีมาที่ผม ทั้งที่ผมผิดคนเดียว แต่มันตามมาที่พ่อแม่ผม ผมรู้สึกว่ามันเยอะเกินไปแล้ว ผมรู้สึกไม่สบายใจ”
จากนั้น พีชก็ได้ขึ้นรถไป โดย นายกเบี้ยว เดินตามหลัง ก่อนจะพูดส่งท้ายว่า “พอแล้วนะ”